ฝันร้ายในรอบ 40 ปี
- koret zarter
- 16 มี.ค. 2565
- ยาว 1 นาที
ถือเป็นผลงานที่น่าชื่นมื่นสำหรับ แอตเลติโก มาดริด และเป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังของ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันอังคารที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมานั้น "ตราหมี" บุกไปชนะทีมดังของเมืองผู้ดี 1-0 จนทำให้พวกเขาคว้าชัยด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-1 และได้เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศต่อไปอย่างที่หลายท่านอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าเกมนัดดังกล่าวทำให้เกิดสถิติและเกร็ดที่น่าสนใจขึ้นมา
อย่างเช่นการที่ แอต. มาดริด เป็นทีมเดียวในประวัติศาสตร์ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เขี่ยทีมจากอังกฤษซึ่งมีดีกรีเคยได้สัมผัสถ้วย "บิ๊กเอียร์" ตกรอบน็อกเอาต์ได้ถึง 3 ทีม และเป็นครั้งที่ 3 ในการเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่นแบบเต็มเกมแต่ไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูเลย ซึ่งมันถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจพอตัวถึงกระนั้น มันก็ยังมีเกร็ดอย่างอื่นที่ถือว่าน่าสนใจและหลายคนอาจจะนึกไม่ถึงเหมือนกัน โดยในจำนวนนั้นถือเป็นสถิติที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีด้วย อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วนั่นแทบจะเป็นลางร้ายสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูบอลสด ก็ว่าได้ เพราะหากนับรวมฤดูกาลนี้เข้าไปด้วยแล้วล่ะก็ มันก็กลายเป็นว่า 3 ครั้งหลังสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บผลเสมอในนัดแรกของรอบน็อกเอาต์ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้นั้น ท้ายที่สุดแล้วพวกเขากลับเป็นฝ่ายตกรอบทั้งหมด โดยครั้งแรกคือฤดูกาล 2012-13 ที่ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อุตส่าห์ออกไปเสมอ เรอัล มาดริด 1-1 ก่อนจะกลับมาแพ้ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-2 ตามด้วยซีซั่น 2013-14 ที่ทีมในยุคของ เดวิด มอยส์ เปิดบ้านเสมอกับ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ก่อน 1-1 แต่หลังจากนั้นก็ไปแพ้ 1-3 ที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า
ครั้งแรกของ ซิเมโอเน่ก่อนถึงฤดูกาล 2021-22 นั้น เจ้าของฉายา "เอล โชโล่" เคยนำ แอต.
มาดริด เจอกับคู่แข่งที่มี โรนัลโด้ อยู่ในทีม 5 ครั้ง หากนับเฉพาะรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เขากลับต้องเป็นฝ่ายชอกช้ำทั้งหมด ลางร้ายตลอดด้วยความที่ในนัดแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูตีเสมอ แอต. มาดริด ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมจาก แอนโธนี่ อีแลงก้า ทำให้พวกเขาไม่เสียเปรียบมากนัดในการเล่นนัดสอง และตอนนั้นเหล่า "เร้ด อาร์มี่" ก็ชื่นมื่นกันสุดๆสำหรับ 5 ครั้ง
ที่ว่าประกอบไปด้วยฤดูกาล 2013-14 ที่แพ้ เรอัล มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศ, ซีซั่น 2014-15 ที่โดน เรอัล มาดริด เขี่ยตกรอบก่อนรองชนะเลิศ, ซีซั่น 2015-16 ที่ต้องมายืนมอง เรอัล มาดริด รับเหรียญแชมป์ต่อหน้าต่อตาตัวเองอีกครั้ง, ฤดูกาล 2016-17 ที่ทีมของเขาแพ้ เรอัล มาดริด ในรอบรองชนะเลิศ และซีซั่น 2018-19 ที่ โรนัลโด้ ทำแฮตทริกในนัดสองจนพา ยูเวนตุส ชนะ แอต. มาดริด 3-2 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามันเลยถือเป็นครั้งแรกในชีวิตของ ซิเมโอเน่ ที่สามารถพา แอต. มาดริด หักด่านคู่แข่งในเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่มี โรนัลโด้ อยู่ในทีมได้
ความขมขื่นในรอบ 40 ปีการตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้มันเป็นที่แน่นอนแล้วว่าฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่มีถ้วยแชมป์อะไรติดมือเลย และมันก็จะถือเป็นซีซั่นที่ 5 ติดต่อกันที่จะไม่มีถ้วยแชมป์ระดับเมเจอร์มาประดับตู้โชว์ของสโมสรเพิ่ม
Comments