ชัยชนะที่ขาดลอยที่สุด
- koret zarter
- 24 ก.พ. 2565
- ยาว 1 นาที
หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องรอยาวจนถึงฤดูกาล 1998-99 กว่าที่นักเตะของ
พวกเขาจะได้รางวัลดาวซัลโวประจำฤดูกาลของถ้วยบิ๊กเอียร์อีกครั้ง โดยซีซั่นนั้นเป็น ดไวท์ ยอร์ค ที่ได้รางวัลร่วมกับ อังเดร เชฟเชนโก้ ในเวลาต่อมา รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็ทำผลงานที่สุดยอดด้วยการคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดต่อ 1 ฤดูกาลของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 3 จาก 4 ซีซั่น ประกอบด้วยฤดูกาล 2001-02, 2002-03 และ 2004-05
ขณะที่คนล่าสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้รางวัลนั้นคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำได้เมื่อฤดูกาล 2007-08แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่อาจจะยังจำวันที่ทีมรักของพวกเขาไล่ต้อน อาแอส โรม่า 7-1 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง ของฤดูกาล 2006-07 ได้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นวันที่เรียกได้ว่าอะไรก็เข้าทางทีมของ ดูบอลสด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไปซะทั้งหมดจนทำให้พวกเขาเอาชนะทีมดังจากอิตาลีได้ด้วยสกอร์ที่เยอะเกินกว่าความคาดหมายของหลายคนอย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะด้วยสกอร์ที่ถล่มทลายที่สุดกับการลงเล่น ยูโรเปี้ยน คัพ/ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะเกมที่ว่าคือเกมรอบ พรีลิมินารี่ ราวด์ นัดสอง ของฤดูกาล 1956-57 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอกับ อันเดอร์เลชท์ โดยวันนั้นพวกเขาเอาชนะทีมจากเบลเยียมไปถึง 10-0 จนทำให้มันเป็นการชนะด้วยสกอร์ที่ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งนั่นถือเป็นซีซั่นแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ร่วมลงแข้งศึก ยูโรเปี้ยน คัพ ด้วยถึงกระนั้น
เกมที่ว่าก็ไม่ได้เล่นกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพราะตอนนั้นรังเหย้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีแสงไฟมากพอสำหรับการเตะกันในช่วงเย็น โดยพวกเขาต้องไปยืม เมน โร้ด สนามเหย้าของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาใช้เป็นสังเวียนชั่วคราวไปก่อนราล์ฟ รังนิก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ดร็อป ปอล ป็อกบา เป็นตัวสำรอง พร้อมใช้ดาวรุ่งอย่าง
แอนโธนี่ อีแลงก้า สตาร์ทตัวจริงฝั่งซ้าย ส่วน วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ถูกเลือกยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เพราะ ราฟาแอล วาราน มีอาการป่วย ขณะที่ แกรม พ็อตเตอร์ นายใหญ่ ไบรท์ตัน ใช้คู่หอก นีล โมเปย์ กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ล่าตาข่ายเจ้าถิ่น แค่นาทีที่ 5 ไบรท์ตัน ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ ยาคุบ โมเดอร์ ได้หลุดเข้าไปยิงด้วยเท้าขวา แต่ ดาบิด เด เคอา เซฟเอาไว้ได้ ต่อมานาทีที่ 6 จากความผิดพลาดของแนวรับ ไบรท์ตัน ทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้บอล ก่อนผ่านต่อให้ เจดอน ซานโช กดเต็มๆ ทว่าไม่ผ่านตัว โรเบิร์ต ซานเชซ นายประตูทีมเยือน นาทีที่ 39 "นกนางนวล" เกือบได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ ปาสกาล กรอสส์ ได้ครอสบอลเข้ากลาง และเป็น โมเดอร์ ได้โขกเน้นๆ แต่ เด เคอา ยังคงยอดเยี่ยม พุ่งปัดบอลออกหลังอย่างสวยงามเท่านั้นยังไม่พอ จังหวะต่อมา อีฟส์ บิสซูม่า ได้โอกาสส่องโล่งๆ ด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรก : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 0-0เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่นาน นาทีที่ 51 "ปีศาจแดง" ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ แย่งบอลจาก บิสซูม่า ได้ และเป็น โรนัลโด้ ได้บอลไปกดด้วยขวา บอลติดไซด์นิดๆ พุ่งเบียดเสาตุงตาข่ายอย่างงดงาม
โมเมนตัมเทมาทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เต็มๆ และนาทีที่ 54 สถานการณ์ของ ไบรท์ตัน ย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน โดย ลูอิส ดังค์ ได้รับใบแดง จากจังหวะเสียท่าให้ แอนโธนี่ อีแลงก้า ที่พุ่งเข้ามาแย่งบอลจากเท้า ซึ่งตอนแรก ดังค์ ได้แค่ใบเหลือง แต่หลังจากที่ผู้ตัดสินไปเช็ค VAR ด้วยตัวเอง ก็เปลี่ยนจากใบเหลืองเป็นไล่ออก ดังค์ แทน เจ้าถิ่นยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ และนาทีที่ 72 พวกเขามีโอกาสดีมากๆ ที่จะได้ประตูที่สอง จากการผ่านบอลพลาดของ ซานเชซ ที่ดันเปิดมาเข้าเท้า โรนัลโด้ ซึ่งไหลบอลต่อให้ แฟร์นันด์ส ที่ยืนโล่งๆ ทว่าจอมทัพชาวโปรตุเกสกลับยิงไปติดเซฟ ซานเชซ เฉย
Comments