คีนจี้กรีลิชเลิกทำตัวเป็นเด็กได้แล้ว

รอย คีน ระบุ แจ็ค กรีลิช กองกลาง แมนฯ ซิตี้ จำเป็นต้องมีนิสัยแบบผู้ใหญ่มากกว่านี้ได้แล้ว

โดยมองว่าทุกวันนี้ทั้ง โจเซป กวาร์ดิโอล่า และ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ไม่ได้เชื่อใจในตัวเขามากนักด้วย

รอย คีน ตำนานกองกลางชาวไอริช กล่าวว่า แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องเลิกทำตัวเป็นเด็กได้แล้ว เพื่อที่เขาจะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจาก โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม "เรือใบสีฟ้า" มากกว่านี้

เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน แมนฯ ซิตี้ ยอมทุ่มเงินสูงถึง 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,300 ล้านบาท) เพื่อดึง กรีลิช มาร่วมทัพ หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นกับ แอสตัน วิลล่า แต่กลับกลายเป็นว่าจนถึงตอนนี้ฟอร์มโดยรวมของแข้งวัย 26 ปียังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แถมเขายังมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับพฤติกรรมนอกสนามด้วย อย่างเช่นไม่นานมานี้ที่ยังอยากจะเข้าไปดื่มทั้งที่มีสภาพเมาแอ๋ เป็นต้นคีน เผยว่า "ผมคิดว่าช่วงไม่กี่เดือนต่อจากนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ ของ แมนฯ ซิตี้ ก็ว่าได้ ส่วนสำหรับคนเป็นนักเตะนั้นการต้องลงเล่นเกมสำคัญๆ ดูบอลสด หลายนัดจะถือเป็นบททดสอบของจริง ที่ผ่านมา แจ็ค มีปัญหาด้านอาการบาดเจ็บนิดหน่อย และอาจจะโดนตำหนิจากพฤติกรรมนอกสนามไปบ้าง ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าสิ่งที่ แจ็ค ต้องทำในตอนนี้คือต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่และเรียกความเชื่อใจจาก เป๊ป ให้ได้ด้วย"

"ตอนนี้เขาอาจจะยังไม่ได้ความไว้เนื้อเชื่อใจ (จาก กวาร์ดิโอล่า) มากนัก

เหมือนกับในทีมชาติอังกฤษนั่นแหละ ผมคิดว่า แกเร็ธ (เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ) ก็ยังไม่ได้เชื่อใจเขามากเท่าไหร่เหมือนกัน" โธมัส ทูเคิ่ล พา สิงโตน้ำเงินคราม ออกสตาร์ตในลีก 5 เกมแรกด้วยสถิติ 4-1-0 โดยไปเยือนทีมใหญ่อย่าง อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ส มาแล้ว สัปดาห์ก่อนบุกกิน สเปอร์ส สบาย 3-0 นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในเวลานี้โดยมีสถิติทุกอย่างเท่ากับทีม "หงส์แดง"

เมื่อกลางสัปดาห์ ทูเคิ่ล ส่งสำรองลงเต็มอัตราศึกและเสมอกับ แอสตัน วิลล่า ไป 1-1 ใน คาราบาว คัพ รอบ 3 ยังดีที่ยิงจุดโทษชนะไป 4-3 ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป และนัดนี้เขาจะกลับมาใช้ชุดใหญ่อีกครั้ง

สภาพทีมล่าสุดต้องงดใช้บริการ เมสัน เมาน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่บาดเจ็บจากเกม คาราบาว คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ คริสเตียน พูลิซิช ที่เจ็บก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่จะได้ เอดูอาร์ เมนดี้ ที่หายเจ็บโคนขาหนีบกลับมาเฝ้าเสา แนวรุกนำโดย โรเมลู ลูกากู หัวหอกตัวเก่งยืนหน้าเป้า โดยมี ไค ฮาแวร์ตซ์ ปั้นเกมรุกอยู่ข้างหลังร่วมกับ ติโม แวร์เนอร์ หรืออาจเป็น ฮาคิม ซิเย็ค ที่ได้ลงเล่นแทน เมาน์ท เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีม เรือใบสีฟ้า แชมป์เก่า ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1 ในพรีเมียร์ลีก 5 นัดแรกอยู่อันดับ 5 ตามหลังจ่าฝูง เชลซี และ ลิเวอร์พูล 3 แต้ม โดยสัปดาห์ก่อนเปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0หลังจากออกสตาร์ตแพ้ สเปอร์ส 0-1 (เยือน) แมนฯซิตี้ ไม่แพ้ใครมา 6 นัดติดต่อกันในทุกรายการ โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกไม่เสียประตูมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว ส่วนผลงานกลางสัปดาห์ไล่ถล่ม วีคอมบ์ ไป 6-1 ในคาราบาว คัพ รอบ 3

เกมกับ วีคอมบ์ นักเตะอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น, ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิง และ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้สตาร์ต 11 ตัวจริง น่าสนใจว่าเกมนี้จะมีใครในนี้ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงกับเชลซีบ้าง

โดยข่าวดีคือได้ อายเมอริก ลาป๊อร์ก และ จอห์น สโตนส์ มีชื่อเดินทางลงไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ในเกมนี้ด้วยโดยต้องลุ้นว่าจะได้สตาร์ทตัวจริงหรือไม่? ขณะที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, อิลคาย กุนโดกัน และ โรดรี้ ต้องทดสอบความฟิตทั้งหมด